WHY PROBIOTICS

Benefits of Probiotic

คุณทราบหรือไม่ว่าจุลินทรีย์คืออะไร
(What is microbes?)

จุลินทรีย์ (Microbes) คือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีชีวิตบนอยู่โลกก่อนที่จะมีมนุษย์เสียอีก เมื่อพันล้านปีก่อนและยังเป็นบรรพบุรุษของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันแน่นอนพวกเค้าดำรงชีวิตเหมือนกับเรา โดยต้องการน้ำ อาหาร อากาศ ที่อยู่อาศัยและมีระบบนิเวศน์เหมือนกันเราเช่นกัน เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเค้าไม่ได้มีอยู่ชีวิตอยู่รอบๆตัวเรา เพียงแค่ว่าเรามองไม่เห็นพวกเค้าด้วยตาเปล่า พวกเค้าอยู่ในทุกๆที่รอบตัวเราทุกที่ทุกเวลา แม้ว่าเราจะนอนหลับอยู่ก็ตามแต่พวกเค้าก็ยังทำงานตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีเวลาพัก ในสังคมของมนุษย์มีทั้งคนดีและคนไม่ดี จุลินทรีย์ก็มีตัวที่ดีและไม่ดีเช่นกัน กลุ่มที่ดีเราเรียกว่าพวกเค้าว่า โพรไบโอติก (Probiotics) และกลุ่มที่ไม่ดีเรียกว่า พาโตเจน (Pathogen) โดยพวกเค้าอาศัยอยู่ร่วมกันและมีระบบนิเวศน์จำเพราะแตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อมที่พวกเค้าดำรงอยู่ 

พวกโพรไบโอติกทำงานอย่างไร
(How probiotics work?)

โดยปกติแล้วนั้นโพรไบโอติกจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อมีอาหาร อากาศ น้ำ และพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับพวกเค้า พวกเค้าสามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้ทุกชนิด โดยจะสร้างเอ็นไซม์ที่มีประโยชน์สำหรับร่างการของเราอีกทั้งยังสามารถปกป้องเราจากพาโตเจนที่จ้องเล่นงานเราอยู่ด้วย เช่นพวกเชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ และแบคทีเรียก่อโรคต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกร่างกายของเราอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโดยปกติเรามักจะใช้สารเคมีต่างๆ เพื่อทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อโรคตามที่พักอาศัย ที่ทำงาน สำนักงาน ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่บนร่างกายของเราเอง กันอยู่เป็นประจำในทุกวัน แต่ทราบหรือไม่ว่าเราได้ทำลาย โพรไบโอติกที่มีประโยชน์กับเราไปด้วย ซึ่งมีงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการหลายฉบับได้บอกถึงประโยชน์ของโพรไบโอติก ซึ่งพวกเค้ามีประโยชน์มากมายมหาศาล เราไม่สามารถกำจัดแบคทีเรียได้ตลอดเวลาเพราะมันจะกลับมาเติบโตใหม่ได้ในทุกๆ 1 ชั่วโมง แต่เราสามารถเพิ่มปริมาณของโพรไบโอติกได้ เราสามารถให้ธรรมชาติจัดการกันเองเพื่อสร้างสมดุล

ประโยชน์ของโพรไบโอติก
(Benefits of Probiotic)

พวกเค้ามีประโยขน์มากมายหลากหลายสำหรับเราดังต่อไปนี้
• ช่วยปกป้องจากสารที่เป็นอันตรายหรือสารก่อภูมิแพ้
• เป็นส่วนช่วยเสริมส่งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• ช่วยร่างกายต่อต้านเชื้อโรค
• ลดการอับเสบและติดเชื้อ
• บรรเทาอาการแพ้
• ขจัดสิ่งสกปรก และกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
• เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• ปลอดภัยต่อสุขภาพ

 

ข้อเปรียบเทียบระหว่างการใช้เอนไซม์และโพรไบโอติกในการทำความสะอาด

 

1. ด้านการทำงาน

เอนไซม์ เอนไซม์จะทำปฏิกิริยากับสารตั้งต้นเพียงชนิดเดียว โดยเฉพาะเอนไซม์ที่ถูกเพิ่มเข้าไปในสารทำความสะอาดเพื่อช่วยทำลายสารตั้งต้นตามธรรมชาติ (เช่น ไขมัน น้ำตาล โปรตีน ฯลฯ) เอนไซม์ถูกใช้มากในผงซักฟอกเพื่อช่วยขจัดคราบสกปรกจากพื้นผิวของผ้าและเนื่องจากเอนไซม์ทำงานเฉพาะกับสารบางชนิดเท่านั้น เช่น ช่วยกำจัดไขมัน ทำให้สารทำความสะอาดชนิดนั้นทำงานได้ในวงแคบเท่าที่เอนไซม์จะตอบสนองได้

โพรไบโอติก โพรไบโอติกถูกใช้ในการทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ มันจะผลิตเอนไซม์ที่เหมาะสมและหลากหลายในการย่อยสลายสิ่งสกปรกนั้นให้กลายมาเป็นอาหารของมัน เช่น ถ้าหากมีคราบไขมันอยู่ โพรไบโอติกก็จะผลิตเฉพาะเอนไซม์ที่ย่อยสลายไขมันเท่านั้น แต่หากมีสิ่งสกปรกอื่นๆ ก็จะผลิตเอนไซม์ชนิดอื่นขึ้นมาเพื่อย่อยสลายมาเป็นอาหารของมันในที่สุด

 


 

2. ด้านประสิทธิภาพ

เอนไซม์ เอนไซม์จะสามารถทำงานได้ก็ต่อเมื่อค่า pH เป็นกลาง และมีอุณหภูมิระหว่าง 20-30 องศาเซลเซียส) หากมีอุณหภูมิที่แตกต่างมาก มีความเป็นกรดด่างมากความชื้นสูง เอนไซม์ก็จะหยุดทำงาน และเมื่อมีการเปลื่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมเอนไซม์จะเสื่อมสภาพลง (ในรูปแบบของการจับตัวเป็นก้อน) และจะไม่สามารถทำความสะอาดได้อีกต่อไป หมายความว่า ในความเป็นจริงเอนไซม์จะทำงานได้ไม่กี่ชั่วโมง และเอนไซม์อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ (จากการสูดดม หรือสัมผัสผ่านผิวหนัง) สำหรับคนที่ไวต่ออาการแพ้ ก็จะรู้สึกไม่ดีเมื่อสัมผัสสารเคมีเหล่านั้น

โพรไบโอติก โพรไบโอติกจะสามารถเจริญเติบโตบนพื้นผิวต่างๆได้ยาวนาน เพราะไม่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาวะความเป็นกรดด่าง หรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง โพรไบโอติกสามารถทำงานติดต่อกันได้หลายวันหลังจากการทำความสะอาด หมายความว่าโพรไบโอติกจะสามารถช่วยรักษาความสะอาดและรักษาสมดุลได้อย่างต่อเนื่องหลายวัน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้สำหรับคนที่ไวต่อสารก่อแพ้ภูมิ

 

 

 

ข้อแตกต่างระหว่างการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โพรไบโอติก เอนไซม์ และน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป